นักโภชนาการเผย น้ำตาล ถือเป็นอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย และมีความต้องการในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นแหล่งพลังงานที่ง่ายและใกล้ชิดกับคนมากที่สุด แต่แนะนำเด็กไทยควรสร้างนิสัยการกินใหม่ บริโภคหวานไม่ให้เกินความจำเป็น เพื่อประโยชน์สูงสุด"การบริโภคอาหารที่ไม่สมดุลเกินปริมาณความต้องการของร่างกายย่อมส่งผลร้ายต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะผู้บริโภคที่เป็นเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นวัยที่ต้องการสารอาหารที่มีคุณค่า เพื่อพัฒนาการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง" ดร.เนตรนภิส กล่าวนักวิจัยสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวต่อว่า น้ำตาลถือเป็นอาหารที่มีความจำเป็นและมีความต้องการในชีวิตประจำวันของคนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นแหล่งพลังงานที่ง่ายและใกล้ชิดกับคนมากที่สุด จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ การบริโภคในครัวเรือนเฉลี่ยใน 7 วัน ชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมการใช้จ่ายบริโภคน้ำตาลและความหวานเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นจาก 24.10 บาทในปี 2545 เป็น 26.50 บาทในปี 2549ขณะเดียวกันข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ระบุว่า การบริโภคน้ำตาลของคนไทยเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยปี 2537 มีการบริโภคน้ำตาลเฉลี่ยอยู่ที่ 23.2 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ขณะที่ปี 2548 มีการบริโภคน้ำตาลเฉลี่ยอยู่ที่ 32.3 กิโลกรัมต่อคนต่อปีหรือโดยเฉลี่ยคนไทยจะบริโภคน้ำตาลวันละประมาณ 22 ช้อนชา หรือ 88 กรัมทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ในแต่ละวันร่างกายควรได้รับน้ำตาลในปริมาณ 10% ของปริมาณพลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน เช่น ควรได้รับพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี ส่วนหนึ่งมาจากน้ำตาลที่เติมในอาหาร ร้อยละ 10 คือเท่ากับ 200 กิโลแคลอรี หรือเทียบเท่ากับน้ำตาลทราย 50 กรัม ประมาณ 10 ช้อนชา แต่ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนด้วย ถ้าเป็นคนที่ออกกำลังกายมากๆ หรือใช้แรงงานมากๆ และไม่เป็นโรคเบาหวาน ก็รับประทานน้ำตาลมากกว่าร้อยละ 10 ของพลังงานได้ต่อสุขภาพ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น